ต้อกระจกคืออะไร อันตรายมากน้อยแค่ไหน วิธีการรักษามีกี่แบบ?
ปัญหาเรื่องสายตา เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะว่าสามารถสร้างความเสียหายได้ค่อนข้างเยอะ และยิ่งคนเราอายุมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวกับสายตาก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างเช่นปัญหาต้อกระจก ที่เจอบ่อยที่สุดเมื่ออายุมากขึ้น วันนี้จึงอยากพาทุกท่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมดูรายละเอียดของการ ผ่าตัด ต้อกระจก ด้วย ว่ามีกี่แบบ
ทำความรู้จักกับต้อกระจก
สำหรับความหมายของโรคต้อกระจกนั้น คือโรคที่เป็นความเสื่อมของเลนส์แก้วตา จนทำให้เกิดความขุ่นมัวขึ้น และเมื่อเกิดอาการเช่นนี้ ก็ทำให้แสงที่ผ่านเข้าไปในดวงตา ไม่สามารถส่งผ่านได้อย่างเต็มที่ นั่นจะเป็นเหตุผลว่าทำให้การมองเห็นที่ไม่ชัด สายตาพร่ามัว และเมื่อปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ความขุ่นมัวก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น บางทีอาจจะใช้เวลาเป็นสิบปีเลยก็ได้ และสุดท้ายก็จะทำให้ตาทั้งสองข้างขาวขุ่นทั้งหมด หรือที่เรียกว่าต้อสุก ในขั้นนี้ก็จะไม่สามารถมองเห็นอีกต่อไป
สาเหตุที่ทำให้เกิดต้อกระจก
เหตุผลหลักที่ทำให้เกิดความเสื่อมของเลนส์แก้วตานั้น มักจะเกิดจากอายุที่มากขึ้น ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 50-60 ปี ส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับต้อกระจกเสมอ อยู่ที่ว่าจะเป็นมากหรือเป็นน้อย และนอกจากปัญหาที่เกิดจากอายุที่มากขึ้นแล้ว ก็อาจจะเกิดจากปัญหาอื่นๆ ได้เช่นกัน
- เกิดจากการได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ดวงตา
- เกิดการผิดปรกติของสายตา อย่างเช่นม่านตาอักเสบ
- เป็นมาตั้งแต่กำเนิด
- เกิดจากการกินยาลดความอ้วน
- เกิดจากการถูกรังสีที่ดวงตา เช่น การฉายรังสีของผู้ที่เป็นมะเร็งที่ดวงตาเป็นเวลานานๆ
- เกิดจากโรคบางชนิดที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของต้อกระจก เช่น โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปรกติ เป็นต้น
- เกิดจากการขาดสารอาหาร
วิธีการรักษาในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการรักษาต้อกระจก สามารถที่จะทำให้โรคนี้หายไปได้เช่นกัน ซึ่งมีวิธีการรักษาอยู่ด้วยกันหลักๆ 3 รูปแบบ ได้แก่
- การผ่าตัดเพื่อเปิดแผลให้กว้าง เป็นวิธีที่ใช้มายาวนาน โดยจะเป็นการ ผ่าตัด ต้อกระจก เพื่อเอาเลนส์ตาออก จากนั้นเอาเลนส์ตาเทียมใส่เข้าไปแทน ผู้ป่วยที่จะใช้วิธีนี้ในการรักษา ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ต้อกระจกสุกแล้ว ต้องใช้วิธีการผ่าตัดอย่างเดียว
- การผ่าตัดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นวิธีการรักษาที่จะใช้คลื่นความถี่สูงเข้าไปที่ต้อกระจก เพื่อสลายต้อกระจก ซึ่งจะทำให้ต้อกระจกมีขนาดที่เล็กลง จากนั้นแพทย์ที่ทำการรักษา ก็จะทำการใส่แก้วตาเทียมเข้าไปแทนเลนส์เก่าในถุงหุ้มเลนส์
- การสลายด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีล่าสุดที่มีการคิดค้นขึ้นมา โดยวิธีนี้จะใช้เลเซอร์ที่มีความเร็วสูง เข้าไปผ่าตัดเยื่อที่ตาแทนใบมือ โดยใช้การควบคุมจากคอมพิวเตอร์ เป็นวิธีที่มีความแม่นยำ และรวดเร็วเป็นพิเศษ
สรุป
จะเห็นว่าต้อกระจก อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ถ้ารักษาได้ทันตามวิธีข้างต้น โดยเลือกให้เหมาะกับอาการ ไม่ว่าจะด้วยการ ผ่าตัด ต้อกระจก การฉายเลเซอร์ใดๆ ก็ตาม ก็สามารถหายขาด และกลับมามองเห็นได้ปรกติได้เช่นกัน ยิ่งถ้ารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะง่ายขึ้นไปอีก